โรคหลอดเลือดหัวใจ

 โรคหลอดเลือดหัวใจ ( Coronary Artery Disease : CAD หรือ Coronary Heart Disease: CHD)



โรคหลอดเลือดหัวใจ

    เกิดจากการเกาะของคราบไขมัน (Plaque)  mภายในผนังหลอดเลือดหัวใจซึ่งเป็นการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารต่าง ๆ ภายในหลอดเลือด  ส่งผลให้หลอดเลือดตีบและอุดตัน  จนปิดกั้นการไหลเวียนของกระแสเลือด  

    เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบจะทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานได้อย่างปกติ  ก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือดซึ่งจะมีอาการเจ็บหน้าอกผู้ป่วยจึงมีอาการเจ็บหน้าอกหายใจติดขัดหรือรุนแรงถึงขั้นหัวใจวายหากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้



สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ

    โรคหลอดเลือดหัวใจมีสาเหตุจากการรวมตัวกันของไขมันที่ผนังภายในหลอดเลือดหัวใจโดยก้อนไขมันนี้เกิดจากคอเลสเตอรอลและของเสียอื่นๆและมีชื่อว่า  อเธอโรมา ( Atheroma )

การเกาะตัวกันของก้อนไขมันทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวหรือกระบวนการที่เรียกกันว่าอะเทอโรสเคลอโรซิส ( Atherosclerosis ) รวมถึงการขัดขวางการเดินของเลือดร่างกายจึงไม่สามารถส่งเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้


ปัจจัยที่ก่อให้เกิดกระบวนการเหล่านี้ได้แก่

  1. คอเลสเตอรอล  ไขมันอิ่มตัวในอาหารที่มีความจำเป็นต่อเซลล์ในร่างกายแต่ถ้าไขมันในกระแสเลือดที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้  คอเลสเตอรอล แบ่งออกเป็นหลายประเภทแต่มีสองประเภทที่สำคัญคือ

            🩸LDL หรือ “ไขมันร้าย” คือตัวการปิดกั้นหลอดเลือดหัวใจซึ่งถือเป็นความเสี่ยงในการ      

                    เกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจ

             🩸HDL หรือ “ไขมันดี” ทำหน้าที่นำไขมันร้ายออกจากเซลล์ต่างๆและลดความเสี่ยงใน

                     การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

  1. โรคความดันโลหิตสูงความดันโลหิตสูงส่งผลให้หัวใจทำงานหนักจนเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวซึ่งอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจ

  2. การสูบบุหรี่หมายความถึงผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่ได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่นหรือผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง  ผู้ที่บริโภคยาสูบแบบไม่มีควัน เช่น ยาฉุน ยาเส้น  รวมถึงผู้ที่เคยสูบบุหรี่ติดต่อกันมาเป็นเวลานานและเพิ่งหยุดสูบได้ไม่นาน  พบว่าผู้สูบบุหรี่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 2.4 เท่า

  3. ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังส่งผลให้เกิดการเสื่อมของหลอดเลือดทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทำให้เซลล์เยื่อบุภายในหลอดเลือดทำงานผิดปกติ  เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็งซึ่งทำให้อวัยวะต่างๆของร่างกายเสื่อมสภาพ  ถูกทำลายและก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมาได้

  4. ความเครียดปัจจัยทางด้านความเครียดที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดคือสภาพจิตใจที่โศกเศร้า  มีความเครียดเรื้อรังเป็นเวลานานติดต่อกันแล้ว ยังไม่สามารถจัดการกับสาเหตุของความเครียดนั้นได้เพราะว่าเก็บกดด้านอารมณ์   


ความสำคัญของโรค

โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของประเทศและทั่วโลกโดยมีอุบัติการสูงขึ้นในประชากรอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปทั้งหญิงและชาย


อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

  1. มีอาการแน่นหน้าอก แน่นแบบตื้อ ๆ ลักษณะเหมือนมีของหนักมากดทับ  รัด จุกเสียดแน่น อึดอัด แสบบริเวณกลางอก - หน้าอกซ้าย ลิ้นปี่ มีอาการปวดร้าวไปที่ไหล่ซ้าย แขนซ้ายด้านในร้าวไปที่กราม 2 ข้าง  มักเกิดขณะออกแรง เช่น ทำงาน  ออกกำลังกายหรือรับประทานหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก 

  2. มีความรุนแรงมาก จนทนแทบไม่ได้

  3. เป็นขณะพักและนานมากกว่า 15 - 20 นาที

  4. เหนื่อยง่ายกว่าปกติ

  5. อาการร่วมอื่นๆเช่นเหนื่อย,คลื่นไส้ , อาเจียน,เหงื่อออก, หวิว ๆ จะเป็นลมผู้ป่วยประมาณ 20 ถึง 40% ไม่มีอาการเจ็บหน้าอกนำมาก่อน

  6. ผู้ป่วยบางรายมาด้วยการเป็นลมหมดสติ, ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ  จนหัวใจหยุดเต้นได้

  7. บางรายมีอาการคล้ายกับโรคกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน


ประชากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ

  1. เบาหวาน

  2. ความดันโลหิตสูง

  3. ภาวะไขมันในเลือดสูง

  4. การสูบบุหรี่พบมากในคนอายุน้อย

  5. ภาวะอ้วนลงพุง

  6. เพศชายอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป

  7. เพศหญิงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปหรือหลังหมดประจำเดือน

  8. บริโภคผักและผลไม้น้อย

  9. ขาดการออกกำลังกาย

  10. ภาวะเครียด


การประเมินในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจทำได้โดยวิธี

  1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

  2. ตรวจสมรรถภาพหัวใจโดยการเดินบนลู่วิ่งหรือสายพานหรือเป็นการตรวจคลื่นหัวใจขณะออกกำลังกาย Exercise  Stress Test หรือ EST

  3. คลื่นเสียงสะท้อนหัวใจด้วยความถี่สูง ( ECHO )

  4. ตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ( Coronary  CT Angiography )

  5. ตรวจหลอดเลือดหัวใจโดยการฉีดสีผ่านสายสวน 

  6. การตรวจคลื่นแม่เหล็กหัวใจ ( Cardiac MRI )


การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ

  1. หากหลอดเลือดตีบตันเพียงบางส่วนรักษาด้วยยา ให้ยาเพื่อรักษาอาการควบคุมปัจจัยเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรค

  2. หากหลอดเลือดตันมากด้วยการทำบอลลูนหัวใจ ( PCI ; Percutaneous Coronary Intervention ) โดยวิธีการขยายเส้นเลือดที่ตีบและอุดตันพร้อมทั้งใส่ขดลวดค้ำยัน

  3. หากไม่สามารถทำบอลลูนหัวใจได้แล้วสาด้วยการผ่าตัดทำบายพาสหัวใจหรือการผ่าตัดเปลี่ยนทางเดินหลอดเลือดหัวใจ (CABG)


การป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจคือระดับคอเลสเตอรอล การสูบบุหรี่ เบาหวาน และความดันโลหิต การมีสุขภาพที่ดีจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ  ซึ่งทำได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้

🛑 ออกกำลังกาย  ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย มักมีแนวโน้มที่จะประสบภาวะหัวใจวายได้มากถึงสองเท่า  ออกกำลังกายเป็นเวลา 30 - 60 นาทีใน 4 - 5 วันต่อสัปดาห์

🛑 รับประทานอาหารประเภทไขมันต่ำและกากใยสูง เช่น  ผัก ผลไม้  ถั่วและธัญพืช มีคอลเลสเตอรอล  ไขมันอิ่มตัวและโซเดียมในระดับต่ำ  ซึ่งช่วยควบคุมน้ำหนัก  ความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลได้

🛑 ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น อาหารแปรรูปประเภทไส้กรอก หรือ ลูกชิ้น ,เนยชีส,เค้กและอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม

🛑 ควรลดและจำกัดปริมาณเกลือไม่เกิน 6 กรัมหรือประมาณหนึ่งช้อนชาต่อวันเพื่อลดอัตราการเกิดความดันโลหิตสูง

🛑 งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่คือปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ สารนิโคตินในบุหรี่ขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้นนอกจากนี้ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ยังทำหน้าที่ลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายผนังเลือดอีกด้วย

🛑 งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  หากไม่สามารถงดเว้นได้ ไม่ควรดื่มอย่างต่อเนื่อง  เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจวายได้

🛑 ควบคุมความเครียด  ควรฝึกวิธีการควบคุมความเครียด เช่น การผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการหายใจ  เป็นต้น

🛑 ตรวจสุขภาพควรเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจที่อาจเกิดขึ้น

🛑 ควบคุมความดันโลหิตควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการควบคุมความดันโลหิตที่เหมาะสมกับอายุและอาการของตนเอง

🛑 ควบคุมโรคเบาหวาน โรคเบาหวานถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับ 130 / 80 mmHg

 

ขอบคุณ : ข้อมูลเอกสารทางวิชาการ สถาบันโรคทรวงอกและ รพ.เปาโล


เรียบเรียงโดย : แอ๋วสาระดี

ความคิดเห็น