ประวัติหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม


 วันนี้วันที่ ๕ มีนาคม​ ๒๕๖​๕​ เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เจริญอายุวัฒนมงคลครบ ๗๒ ปี ๕๒ พรรษา หลวงพ่อกัณหา สุกาโม เป็นพระสุปฏิปันโน ยึดพระธรรมวินัยเป็นหลัก มุ่งหวังประโยชน์ส่วนรวม เป็นสมณผู้มีเมตตาธรรมสูง ปัจจุบันหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม ท่านพำนัก ณ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม บ้านบุเจ้าคุณ ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา


ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ กราบขอน้อมบูชาคุณ น้อมนำธรรมะมาปฏิบัติ ขอองค์หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม มีธาตุขันธ์แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิธรรมสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้เจริญด้วยศีลธรรม สมาธิธรรม และปัญญาธรรม มั่งคงสืบไปด้วยเทอญ . . . ส า ธุ


หลวงพ่อกัณหา มีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ๆ ของหลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงพ่อกัณหา เกิดวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๓ เป็นบุตรของพ่อกา โยมแม่ช้อน ภูมิลำเนา อยู่ที่ ตำบลนาเจริญ อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี 


ท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราช จังหวัดอุบลราชธานี สมัยก่อนวัดหนองป่าพง กันดานมาก ยังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ พออายุครบบวช ท่านเข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสุปัฏนารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดอุลราชธานี ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ ซึ่งเป็นสังกัดธรรมยุติกนิกาย หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อกัณหาได้อยู่ประพฤติปฏิบัติศึกษาพระธรรมวินัย กับหลวงพ่อชา สุภัทโท เป็นเวลา ๓ ปี 


จากนั้นได้ออกธุดงค์กรรมฐานในทุกภาคของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ใกล้เคียง ได้แก่ พม่า มาเลเชีย เขมร ลาว รวมระยะทางที่เดินธุดงค์ ร่วม ๖๐,๐๐๐ กิโลเมตร ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ที่ปฏิบัติดีปฏบัติชอบ มุ่งมรรคผลพระนิพพาน ปฏิปทาที่ยึดเป็นหลัก ในการปฏิบัติประจำวันได้แก่ฉันอาหารมื้อเดียว ไม่รับเงินรับทองไว้เป็นของส่วนตัว ไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ


หลวงพ่อกัณหา สุกาโม ท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแพร่ธรรมาราม อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ มีวัดสาขาที่อยู่ในความเมตตา ดูแลของท่าน ทั้งในและต่างประเทศ รวมจำนวน ๓๓ วัด


เมื่อปีพุทศักราช ๒๕๓๖ ทางวัดบวรนิเวิศวิหาร ให้เจ้าคณะจังหวัดแพร่ น่าน ลำปาง พะเยา เชียงราย แจ้งให้หลวงพ่อกัณหา สุกาโม รับตำแหน่งซึ่งมีสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ แต่หลวงพ่อกัณหา สุกาโม ไม่รับสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ


ดังนั้นเจ้าคณะจังหวัดจึงให้ท่านทำหนังสือยืนยันการที่ไม่รับ สมณศักดิ์นั้น เพื่อรายงานให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทราบเจตนาดังกล่าว ซึ่งถ้าหากไม่มีหนังสือรับรอง  ทางเจ้าคณะ เกรงว่าประชาชน จะติเตือนว่า พระที่ทำคุณประโยชน์ ให้ประเทศชาติและประชาชนไม่ได้รับการดูแล จากทางคณะสงฆ์ ซึ่งทางหลวงพ่อกัณหา สุกาโม ท่านรับเป็นเพียงพระอุปัชณาย์ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการบวชพระให้แก่ลูกหลาน ได้สืบทอดพระพุทธศาสนาเท่านั้น หลวงพ่อกัณหา สุกาโม จึงได้ชื่อว่า เป็นพระผู้ที่ไม่รับ สมณศักดิ์ใดๆ


"..สิ่งที่ผ่านมาก็เหมือนพยับแดดเดี๋ยวมันก็สลายไป ผ่านไปแล้ว ให้เรารู้จักรู้แจ้ง ตรงนี้เองที่เราจะต้องปฏิบัติ ว่าเราจะไม่ตามอารมณ์ ไม่ตามสิ่งแวดล้อมไป ถ้าเราตามไปก็จะมีความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก มีความทุกข์มาก มีความทุกข์หลาย เลยเป็นคนไม่มีพุทธะ พุทโธ เพราะพระพุทธเจ้าให้เราฝึกไปทุก ๆ วัน อย่าไปทอดธุระ อย่าไปพลั้งเผลอ อย่าประมาท อย่าใจอ่อน มันชอบใจอ่อนคนเรานะ มันต้องใจแข็ง ใจเด็ดขาด ใจตั้งมั่น มีความซื่อสัตย์ จริงใจต่อตนเอง ต่อการประพฤติปฏิบัติธรรมของเรา


อย่าเป็นคนอยู่เหมือนกับคนไม่มีเจ้าของ มีจิตใจล่องลอยเหมือนคนนอนหลับแล้วก็ฝันไป วันหนึ่ง ๆ ก็ลอยไปลอยมา ไม่มี 'พุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน' คนเราถ้าทำดีไม่หยุดมันต้องได้ดี ทำดีทั้งทางจิตใจ ทั้งคำพูด ทำดีในการกระทำให้ทำไปเรื่อย ๆ ..."

โอวาทธรรมคำสอนของ หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม


กราบ กราบ กราบ



ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น