มะปรางลอยแก้ว”

ครั้งแรกที่ทำ... กับความรู้ใหม่ว่า…... มะปรางกับมะยงชิดต่างกันงัย ? ที่สุดว้าว !! คือ มะปรางที่หวานกรอบอร่อย ลูกใหญ่เท่าไข่ไก่ มีต้นกำเนิดและปลูกมากที่อุตรดิตถ์ บ้านของพี่ Aewlsaradee !!!



สวัสดีค่ะ  เดือนนี้เดือนมีนาคม  เป็นช่วงที่มะปรางกำลังออกลูก 

ได้ผลผลิตเยอะมาก  เมื่อไปตลาดจะเห็นมะปรางลูกใหญ่ ๆ น่ากินมาก แม่ค้าจะมัดขั้วของลูกมะปรางเป็นพวงสวย  โชว์ความงามของลูกมะปรางสีดอกจำปี เหลืองฉ่ำ ๆ วางโชว์ไว้อย่างสวยงาม เชิญชวนให้หลงใหล ชวนชิมและลิ้มลอง



พี่ Aewlsaradee  ชอบผลไม้รสเปรี้ยวนิด ๆ มะปรางจึงเป็นหนึ่งในผลไม้ของโปรดของพี่  เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อดใจไม่ได้ซื้อมากิโลละ 230 บาทลูกใหญ่มาก กิโลหนึ่งนับลูกได้ มี 10 ลูก ปอกกินยังไม่อิ่มเลย ...ในใจก็อยากไปซื้อกินอีก 

…...ไม่น่าเชื่อ ….นึกอยากกินก็ได้กิน  คุณเทวดาหิ้วตะกร้าใบใหญ่พร้อมมะปรางเต็มตะกร้า ...555  ลาภปาก   


แต่...คุณค่ะ  มันเยอะมากคร่าาาา….


ถ้าปอกกินให้ทันสุกคงพุงแตกแน่ ๆ  เอางัยดีล่ะ  !!!

แล้วความคิดดี ๆ ก็แว๊บเข้ามา   ทำมะปรางลอยแก้วดิ !!  

เยอะแบบนี้เอาไปขายได้ด้วย ..ความงกก็เกิด 555 

แทนที่จะเอาไปแจกข้างบ้าน..(แอบใจดี)


ว่าแล้วก็เตรียมการ หาอุปกรณ์ในการทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือ

“มีดคว้าน” หรือ “มีดแกะสลัก”  ซึ่งจำเป็นในการเอาเม็ดมะปรางออก เกิดมาไม่เคยทำสักที ได้แต่ปอกแล้วหั่นสี่ กินเลย !!!

วันนี้จะเป็นกุลสตรี แม่แอ๋วศรีจาเป็นแม่ศรีเรือน  555

 ถ้าเป็นน้องตุ๊กตาล่ะก็สบายมาก และแล้ว ...

การสรรหาอุปกรณ์ก็เกิดขึ้น….

จาา..ไปซื้อที่ไหนล่ะ ? ไปร้านเบเกอรี่ไม่มี ….

จะไปที่ห้างสรรพสินค้า ..คิดดิ ...มันจะมีให้หรือ ? 

เคยชอบเดินดูเครื่องครัวบ่อย  ๆ ไม่เคยเห็นน้าาา…. 

ถ้าจะสั่งทางออนไลน์ จะทันได้ทำกินมั้ย แม่แอ๋วศรี !!!

มีดคว้านจาก ลาซาดา , มีดคว้านจาก shopee


เอาล่ะ!!  ที่สุดท้ายต้องร้าน ทุกอย่าง 20 บาท นี่แหละ

ถ้าที่นี่ไม่มี “มีดคว้าน” มะปรางลอยแก้วของแม่แอ๋วศรี

ถ้าจะไม่รอด..!!!


บุญบันดาลให้มา พบเจอ !!  (เพลงก็มา...)  เจอจริงคร่าาาา.. อยากได้อะไรทุกสิ่งอันตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ คุณจะพบได้ที่นี่ ร้านทุกอย่าง 20 บาท เสนอราคาด้ามละ 20 บาทเอง



อุปกรณ์สำคัญพบแล้ว ..ทีนี้มาถึงวิธีการทำที่สำคัญพอ ๆ กันคือ การคว้านเม็ดมะปรางออก ขั้นตอนแรกคือการปอกเปลือกมะปรางออก  พี่Aewlsaradee เคยแต่ใช้มีดสองคมปอกผลไม้

เริ่มต้นหยิบมะปรางขึ้นมาได้ครั้งแรกก็ใช้สิค่ะ.. เอาที่เราถนัด ..!!

เมื่อปอกเปลือกออก..เปลือกที่ปอกออกมันหนามาก 

ถึงเนื้อในเลย …....เอ..ชักไม่เข้าท่าเสียแล้วแม่แอ๋วศรี  ไฉนเลย !! เจ้าต้องหาตัวช่วยแล้ว ...

ว่าแล้วก็เปิดหาคุณครูในยูทูบ ที่ทำมะปรางลอยแก้วและคว้านเม็ดมะปรางออก  คุณครูแต่ละท่านก็สอนดีเหลือเกิน  โดยเฉพาะเรื่องการปอกเปลือกมะปรางท่านบอกว่า  ต้องปอกเปลือกให้บาง

และต้องไม่ทำรุนแรงกับน้องมะปราง เพราะจะทำให้น้องช้ำ .. 


โอ้ยยย…!!!! เยอะ นะคะ  คนจะเป็นแม่ศรีเรือนนี่ต้องใจเย็นสุด ๆ 

เอาคร่าาา..ไหน ๆ จะเป็นแม่แอ๋วศรีทั้งที ต้องทำได้  ก็เปลี่ยนจากใช้มีดสองคมมาเป็นมีดบางเล็ก ๆ ปอกเปลือกให้บางที่สุด  คุ๊นนน..คิดดู อิฉานนั่งปอกเปลือกมะปรางตั้งแต่ 11 โมง กว่าจะเสร็จ  เกือบ บ่าย 2  นี่ถ้านั่งสมาธิ คงได้บุญโข ..แอ๊ะ !!แต่ได้สมาธิจริง  ๆ นะค่ะ


เอาล่ะ !! ขั้นตอนสำคัญคือการคว้านเม็ดมะปรางออก


ทุลักทุเล ตัวเองมาก 555 

เริ่มจาก การจับมีด ต้องให้นิ้วกลางคอนโทรลมีด อธิบายไม่ถูกอ่ะ !!  คือต้องทำอย่างเบามือ ให้ลูกมะปรางอยู่ที่มือซ้ายสำหรับคนที่ถนัดขวา  มือขวาจับมีดคว้าน วางในระนาบเดียวกัน คือแนวนอน ครูในยูทูบบอกมาให้ทำแบบนี้ ก็ลองทำตาม บางคนก็บอกให้เริ่มจากหัวก่อน และคว้านทางก้นทีหลัง ครูอีกคนบอกคว้านก้นก่อน แล้วค่อยคว้านหัวทีหลัง  แม่แอ๋วศรีก็ลองทำทั้งสองแบบ  คือถนัดใครถนัดมัน  สุดท้ายขอให้เอาเม็ดมะปรางออกเป็นอันใช้ได้ เพราะไม่ได้ประกวดความงามของการแกะสลัก ...สุดท้ายก็ทำสำเร็จ ...เย้ ๆๆๆ (ลืมถ่ายรูปไว้เลย 555)


ก่อนทำการคว้านเม็ดมะปราง เพื่อให้น้ำเชื่อมเย็นพอดีกับการใช้เวลาในการคว้านเม็ดมะปรางออก ก็ให้มาทำน้ำเชื่อมก่อน 

น้ำเชื่อมง่าย ๆ ผสมน้ำ 1 ลิตร น้ำตาลทราย ครึ่งกิโล เกลือ 2 หยิบมือ ต้มน้ำให้เดือด พี่ Aewlsaradee ไม่มีใบเตยเลยไม่ได้ใส่ คุณครูในยูทูบบอกว่าถ้าใส่จะทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น 

ไม่เป็นรัย คราวหน้าแก้ตัวใหม่ ….(ยังคิดจะทำอีก 555)  

เมื่อน้ำเดือด ปิดไฟ พักไว้ ให้เย็น

เมื่อน้ำเชื่อมเย็นแล้วจึงนำมาเทใส่แก้วที่ใส่มะปรางไร้เม็ดแล้ว เป็นอันเรียบร้อย 



เคล็ดลับการกินมีอีกน่ะค่ะ  ถ้ายิ่งแช่เย็นค้างคืนไว้ 1 คืน จะอร่อยมาก หรือแช่ในช่องแช่แข็งยิ่งอร่อยสุด ๆ อากาศร้อน ๆ เมื่อได้กินมะปรางลอยแก้ว รสชาติออกเปรี้ยวนิด ๆ หวานพอดี ๆ 

อย่างชื่นใจเลยค่ะ


อย่างที่เกริ่นนำไปค่ะ ..ว่ามะปรางกับมะยงชิดต่างกัน (ก็พี่เป็นเชี่ยวชาญเฉพาะตอนกิน….555) พี่ก็พึ่งรู้ว่า ..มะปราง นั้นลูกจะเล็กกว่ามะยงชิด สีออกเหลืองนวลส่วนมะยงชิดนั้นสีเข้มออกเหลืองจำปาหรือเหลืองอมส้ม  เมื่อสุกแล้วมะปรางจะออกรสหวาน หรือหวานจืด ส่วนมะยงชิดนั้นจะออกรสหวานอมเปรี้ยว  มะยงชิดไม่มียางแต่มะปรางมียางเมื่อกินแล้วจะระคายเคืองในคอ


ทีนี้มาดูด้วยตาเปล่าเพื่อแยกว่าไหน ? คือมะปราง ไหน? คือ มะยงชิด  มองง่าย ๆ มะปรางลูกจะคล้ายรูปไข่และกลม ปลายเรียวแหลม มะยงชิดลูกใหญ่ เนื้อเยอะ มีเปลือกหนา


และอย่างภูมิใจคือ มะปรางหวานที่อร่อยชื่อ “สุวรรณบาตร”  ที่เป็นที่ชื่นชอบของนักกินมะปรางนั้นมีต้นกำเนิดที่อุตรดิตถ์ ปลูกมากที่ลับแลดินแดนคนไม่โกหก   ใน “สวนสุวรรณ” สวนที่ขึ้นชื่อของการเป็นต้นกำเนิด  มะปรางพันธุ์สุวรรณบาตร  ผลมีขนาดใหญ่เท่าไข่ไก่เลยทีเดียว  หวานกรอบอร่อยมาก ตอนอยู่อุตรดิตถ์ก็ได้กินบ่อยเหมือนกัน  ราคาขายกันกิโลละ  80 - 120 บาท เราก็ว่าแพงแล้ว พอมาอยู่นนท์ ได้กินเหมือนกัน อย่างที่บอก 230 บาท อย่างว่า ...ของดี อร่อย แพงแค่ไหนก็จะกิน .. กลับอุตรดิตถ์คราวนี้จะกินมะปรางให้ฉ่ำใจเลยทีเดียว “สุวรรณบาตร” 

สุดยอดราชามะปรางหวาน”


เป็นงัยบ้างค่ะ คงอยากกินล่ะสิ ..มะปรางลอยแก้วอร่อยชื่นใจ 

ช่วงนี้มะปรางออกเยอะเพื่อน  ๆ ลองไปหัดทำกันได้เสน่ห์ปลายจวัก กวักเข้าหรือกวักออกไม่รู้นะคะ  ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้

ถ้าชอบกดติดตามและเขียนคำติชมใต้คอมเมนท์ได้เลยน่ะค่ะ

สำหรับวันนี้บ๊ายบาย …


#แม่แอ๋วศรีสตรีชอบแชร์  Everything ที่ดีมีสาระ


ผู้เขียน


Aewlsaradee” หรือ “แม่แอ๋วศรี” ผู้หญิงที่ชอบเรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูงานศิลปะและชอบท่องเที่ยว ตั้งใจมอบสาระดี ๆ ในทุกเรื่องที่คิดว่าดี มีประโยชน์ มาให้ผู้อ่านผ่านตัวหนังสือ ติดตามผลงานหลายผลงานได้ที่


เฟสบุ๊ก : แอ๋ววรรณอนงค์สาระดี


เฟสบุ๊กแฟนเพจ : แรงบันดาลใจวัย50 


บล็อกดิด : แอ๋วสาระดีส่งตรงถึงบ้าน 


TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSxwmnLK/


Blog: Aewlsaradee


Line ID : jaisabaiyoka 


Tel : 083-1632249
















ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น