อ้วนอยู่ไหม ? แค่มีวินัย อ้วนแค่ไหนก็เอาอยู่ ...

 อ้วนอยู่ไหม ? 

แค่มีวินัย  อ้วนแค่ไหนก็เอาอยู่ ...



        สาว ๆ ทั้งหลายเมื่อพูดถึงความอ้วนแล้ว แสลงใจมาก ๆ ใช่มั้ยค่ะ 

พี่แอ๋วเอง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว บอกเลยค่ะ ว่าเข้าข่ายอ้วนมาก 

ที่รู้ตัวเพราะ เวลาใส่เสื้อผ้าแล้วคับจนต้องขยาย size จาก m เป็น xl  

นึกภาพออกมั้ยค่ะ ถ้านึกไม่ออก ลองนึกถึงผู้หญิงที่มีเอว 30 นิ้ว กลายเป็นผู้หญิงที่มีเอว 36 นิ้ว

สิคร้าาาา... (อ้วนสุด ๆ) หรือถ้าจะประเมินความอ้วนทางวิชาการก็คือการหาค่า บีเอ็มไอ (ดัชนีมวลกาย) ซึ่งจะประเมินว่า คุณเป็นโรคอ้วนแล้วหรือยัง ? ของพี่แอ๋วได้ = 40 งัยคะอ้วนดิ...

เพื่อการเข้าใจง่าย ๆ พี่แอ๋วบอกวิธีการคำนวณไว้ให้ ซึ่งมีสูตรดังนี้


บีเอ็มไอ = น้ำหนัก (กิโลกรัม) / ส่วนสูง ยกกำลังสอง


เกณฑ์ดัชนีมวลกาย

ระหว่าง  18.25 - 25     น้ำหนักปกติ

ระหว่าง   25 - 30         น้ำหนักเกินปกติ

ระหว่าง   30 - 40         มีภาวะอ้วน เสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน

มากกว่า  40 ขึ้นไป       เป็นโรคอ้วน มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้นแล้ว


เมื่ออ้วนขึ้น บอกเลยว่า ง่วงมากขึ้น ขี้เกียจตัวเป็นขน ไม่อยากทำอะไรเลย 

เมื่อถึงเวลาก็อยากนอน สมองไม่แล่น คิดอะไรก็ช้า ที่แย่สุด ๆ คือ เมื่อมองกระจกแล้ว

รู้สึกเกียจตัวเองมาก แม้ตอนนั้นลูกบอกว่า “แม่อ้วนจัง” แต่ความรู้สึกก็ยังเฉย ๆ คะ 

ไม่รับรู้อะไรเล้ยยยย...


และแล้วเหตุการณ์ที่ทำให้พี่แอ๋วต้องลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เกิดขึ้น….

ในเช้าวันหนึ่ง เวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้ารู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยแอ๊คทีฟ ไม่กระปรี้กระเปร่า เวลาขับรถรู้สึกเหนื่อย แต่ก็ยังขับรถเพื่อไปทำธุระ ขับรถไปได้ไกลพอควร รู้สึกตัวว่าตาพร่า ลาย แล้ว เวียนหัวขึ้นมาฉับพลัน มีความรู้สึกเหมือนหน้ามืด  แต่ก็ตั้งสติ หาที่จอดรถ เข้าข้างทาง และ พักรถอยู่พักใหญ่ ๆ เลยคะ  รีบหาน้ำมาดื่ม อาการจึงดีขึ้น นี่คือ การเตือนของร่างกายว่า “ถ้าขืนเธอยังปล่อยให้สุขภาพเธอเป็นแบบนี้ อีกไม่นานเธอแย่แน่ ๆ” จึงทำให้พี่แอ๋วต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง


การจะเปลี่ยนตัวเองของพี่แอ๋ว ขั้นแรกสุดคือ “การตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าต้องลดน้ำหนัก” และ  “การสร้างวินัยใหม่” ให้กับตัวเองคะ


การสร้างวินัยในชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนทั่วไป ไม่เช่นนั้นคงไม่จำเป็นจะต้องมีคอร์สอบรมมากมายหรือหนังสือที่เกี่ยวกับการสร้างวินัยในชีวิตออกมาวางขายในท้องตลาดเยอะขนาดนี้  ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการสร้างธุรกิจการสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งหรือการสร้างสรรค์ธุรกิจให้มีวิธีการที่พิสดารแปลกใหม่อย่างไร  หากขาดวินัยและการลงมือปฏิบัติอย่าง

สม่ำเสมอและทำในสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องทำก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ในทุกเรื่อง



พี่แอ๋วทำการลดน้ำหนักได้ด้วยการมีวินัยและสร้างวินัยใหม่ให้กับตัวเองและอยากแชร์ให้เพื่อนนักอ่านที่กำลังมีปัญหาเรื่อง  “อ้วน” พอเป็นแนวทางสร้าง Balance Rule ให้เพื่อนได้ลองไปปฎิบัติดูคะ  …..


1.กำหนดเป้าหมาย | น้อย ชัดเจน ใกล้ตัว

กำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งที่ใคร ๆ  ก็กำหนดได้ แต่ทำได้จริงและไม่ล้มเหลว เราจะกำหนดได้อย่างไร ?  คำแนะนำคือมุ่งเป้าให้แน่ชัดไปเลยว่าจะทำอะไรบ้าง ไม่ต้องตั้งใจมากเพราะว่าเราจะกดดันและสร้างความเครียดให้เรา นอกจากชัดเจนและไม่ไกลเกินตัวไป จนลืมทำ แล้วทิ้งเป้าหมายไปในที่สุด หรือพูดอย่างง่ายคือเราทำได้ทุกวัน  แต่ถ้าเป้าหมายนั้นเป็นเป้าหมายใหญ่ วิธีการแก้คือให้ย่อยเป้าหมายใหญ่นั้นออกเป็นเป้าหมายเล็กๆแล้วลงมือทำทีละเล็กทีละน้อยจะได้ไม่เหนื่อยจนล้มเลิกเสียกลางคันเสียก่อน  เป้าหมายของพี่แอ๋วไม่ได้เป็นตัวเลขของน้ำหนักที่ต้องการลดแต่เป้าหมายคือการสร้างนิสัยการออกกำลังกายทุกวัน


Balance Rule :  เริ่มต้นบอกตัวเองว่า “ต้องออกกำลังกายทุกวัน วันละ อย่างน้อย 15 นาที ในเวลา หลังตื่นนอน” ด้วยท่าโยคะอะไรก็ได้ หรือเปิดยูทูบดูฝึกเน้นออกกำลังแต่ละส่วน  และปรับวิถีชีวิตตามเป้าหมาย เช่น บางวันถ้าไม่มีเวลาเลยก็ออกกำลังขณะทำกับข้าวคะ


2. ตอบคำถามตัวเองสร้างแรงบันดาลใจ

คำถามที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจของเราได้คือ “ทำไมต้องทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ” การตั้งคำถามเป็นการหาข้อดีให้เจอว่าถ้าเราทำเป้าหมายได้สำเร็จแล้วชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างไร    เช่น ใส่เสื้อผ้าสวยขึ้น หุ่นดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้น ห่างจากโรคร้าย ฯลฯ  จะช่วยไปสู่การวางแผนให้เราพุ่งไปข้างหน้าและไม่หลงทาง เราอาจจะหาเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายปลายทางเดียวกันกับเราก็ได้เหมือนกับให้พวกเขาเป็นเพื่อนคู่คิดซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อจิตใจมากเวลาเราท้อ เพื่อนร่วมอุดมการณ์นี่แหละจะเป็นคนที่คอยให้กำลังใจและช่วยดึงเราไปสู่ความสำเร็จปลายทางในที่สุด ในกลุ่มเพื่อนของพี่มีครูสอนโยคะที่น่ารัก Yoga with Lala ที่คอยเป็นเพื่อน ให้กำลังใจในการฝึกโยคะง่าย ๆ เบื้องต้นทำตามแล้วสนุกไม่เบื่อเลยคะ


Balance Rule :  ช่วงแรกในการลดน้ำหนักยอมรับว่าค่อนข้างเหนื่อยมากถึงขั้นทรมาน แต่เพราะมีเป้าหมายชัดเจนจึงไม่ยอมแพ้


 3. ระบุปัญหาแล้วพุ่งชนอุปสรรค

เมื่อเริ่มต้นลงมือทำเริ่มแรกก็มีแรงฮึดแต่พอเวลาผ่านไปก็มากลายเป็นแรงเฉื่อยและมีข้ออ้างมากมายเพื่อใช้เป็นข้อแก้ตัวว่ากำลังมีอุปสรรค คำแนะนำให้ระบุปัญหาหรืออุปสรรคนั้นไว้เป็นข้อ ๆ แล้วหาวิธีแก้ไข แล้วลองทำ ถ้าทำแล้วยังไม่สำเร็จก็ต้องเปลี่ยนวิธี หาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมในส่วนที่ไม่เข้าใจ ที่สำคัญอย่าจมอยู่กับความไม่สำเร็จนั้น แต่จงเปลี่ยนความผิดพลาดให้เป็นบทเรียนแล้วก้าวเดินก้าวต่อไปไม่ให้ผิดซ้ำเดิม


Balance Rule : ปัญหาของผู้หญิงส่วนมากเวลาเครียดก็จะหาของกิน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่แก้ยากวิธีแก้ของพี่แอ๋วคือ “การตกลงใจ หรือการตัดสินใจ ว่า “จะไม่ตามใจปาก” ด้วยการ พิจารณาสิ่งที่จะกินเข้าไปทุกครั้ง  จนปัจจุบันนี้พี่แอ๋วเลิกกินอาหารขยะและขนมกรุบกรอบไปเลย เพราะอาหารพวกนี้ไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ แถมยังทำให้อ้วนอีกด้วย


4. สร้างนิสัยใหม่ ๆ ใส่ใจกับการพัฒนาตนเอง

นิสัยหมายถึงพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆอยู่เสมอจนเกิดเป็นความเคยชินเมื่อเราค้นพบวิธีแก้ไขอุปสรรคที่เราเจอแล้วก็จงฝึกทำให้เป็นกิจวัตรเหมือนกับการทานข้าว  เวลาขี้เกียจก็ให้บอกกับตัวเองว่าถ้าเราไม่ทำแล้วใครจะมาทำแทนเรา  อีกอย่างการมีสมาธิจดจ่อกับเป้าหมายทบทวนเป้าหมายอยู่เสมอเสมอทุกๆวันจนกลายเป็นนิสัยจะช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำได้เป็นอย่างดีจนพาเราไปถึงผลสำเร็จได้ในที่สุด


Balance Rule :  หลังจากปฎิบัติตามเป้าหมายในทุกวัน ก็เกิดนิสัยใหม่ขึ้นมาเช่น เมื่อตื่นลืมตาขึ้นมานึกถึงการออกกำลังกายก่อนทำสิ่งอื่น และลุกจากที่นอนโดยไม่ความขี้เกียจ ได้จัดระเบียบชีวิตใหม่จากที่ชอบกินของทอด แกงกะทิมัน ๆ เริ่มงด หันมากินยำผักแทนและปรับอาหาร เลิกซื้ออาหารสำเร็จ หันมาทำกับข้าวกินเองค่ะ  วันไหนไม่อิ่มก็กินผักเยอะ ๆ จนวันนี้ได้สูตรน้ำยำ น้ำสลัดของเราเองทำให้สนุกและอร่อยกับการกินมากขึ้น อดอาหารบ้างกับออกกำลังกายตอนเช้าดีอย่างไร


5. บอกตัวเองว่า “ฉันทำได้” และ รู้จักให้รางวัลตัวเอง

สิ่งสำคัญที่สุดในการที่จะสร้างวินัยตัวเองให้ยั่งยืนก็คือต้องไม่ลืมให้กำลังใจตัวเอง เช่น คำพูดง่าย ๆ ว่า “ฉันทำได้” เป็นการบอกตัวเองให้มีแรงฮึดสู้ต่อไป เมื่อใดก็ตามที่เราได้เห็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นด้วยมือของตัวเราเองอยู่ข้างหน้าแล้ว ซึ่งความสำเร็จนั้นเป็นผลตอบแทนในตัวมันเองอยู่แล้วตัวเราเองก็อย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วย  จงรู้สึกดี ๆ กับสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน  มีความสุขและ และภูมิใจในตัวเองเพราะสิ่งทั้งหมดที่เราทำนั้นจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เรารักษาวินัยนั้นได้ต่อไป


Balance Rule : หลายคนบ่นว่าลดน้ำหนักยาก แต่พี่แอ๋วคิดว่า ปัญหาอยู่ที่การไม่ลงมือทำจริงจังมากกว่า หรือบางคนไม่มีวินัย เมื่อเราเริ่มลงมือทำ มันเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ ที่เราเป็นผลจากการลงมือทำ การให้กำลังใจ การให้รางวัลตนเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะ ไม่มีใครรู้ ใครเห็นเท่าตัวเองรู้ ตัวเองเห็นผลจากการกระทำของเราเองคะ



แม้จะเตรียมความพร้อมมามากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในการสร้างวินัยในการลดน้ำหนักคือ “just do it”  หรือ “แค่ลงมือทำ” 

แล้ววันนี้คุณเป็นคนที่ลงมือทำเพื่อการสร้างวินัยในการลดน้ำหนักของคุณแล้วหรือยัง ?

เริ่มต้นวันนี้เพื่อ สุขภาพของคุณเอง

พี่แอ๋วขอเป็นแรงใจในการเริ่มต้นของทุกคนคะ


กด Subscribe รอเลยถ้าบทความนี้มีประโยชน์…



ผู้เขียน


Aewlsaradee” หรือ “แม่แอ๋วศรี” ผู้หญิงที่ชอบเรียนรู้ ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูงานศิลปะและชอบท่องเที่ยว ตั้งใจมอบสาระดี ๆ ในทุกเรื่องที่คิดว่าดี มีประโยชน์ มาให้ผู้อ่านผ่านตัวหนังสือ ติดตามผลงานหลายผลงานได้ที่


เฟสบุ๊ก : แอ๋ววรรณอนงค์สาระดี


เฟสบุ๊กแฟนเพจ : แรงบันดาลใจวัย50 


บล็อกดิด : แอ๋วสาระดีส่งตรงถึงบ้าน 


TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSxwmnLK/


Blog: Aewlsaradee


Line ID : jaisabaiyoka 


Tel : 083-1632249












ความคิดเห็น